Loading...
الاستعدادات قبل عملية شفط الدهون للحصول على جسم جميل ومثالي مع الدكتورة. لوك نو تعتبر عملية شفط دهون إحدى الطرق لإزالة الدهون الزائدة في الجسم والمتواجد في مناطق المختلفة من أجل الشد وتقليل الأجزاء التي يقلقنا بطريقة سريعة وسهلة. اليوم دعونا نلقي نظرة حول كيفية التحضير قبل عمل شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو تحضير جسمك قبل عملية شفط الدهون الدكتورة. لوك نو لبدء باستشارة الدكتورة. لوك نو لمعرفة التفاصيل حول شفط دهون عمل سجل المريض ذكر تفاصيل حول حساسية الأدوية و الأمراض المصاحبة قياس الوزن والطول وقياس ضغط الدم لتحديد كمية التخدير المطلوبة بما في ذلك تقييم العلاج ايضا العلم بتفاصيل الخطوات التي يجب فعله قبل شفط دهون المناسب لكل شخص الاستعدادات لإجراء شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو الحصول على قسط كافٍ من الراحة قبل إجراء عملية شفط الدهون فحص الدم اللازمة لجلب المعلومات إلى الطبيب لنظر إلى مدى جاهزيته التوقف عن تناول الادوية و المكملات الغذائية التي تسبب تخثر الدم تجنب تناول الطعام لمدة 6 ساعات تقريبًا قبل عملية شفط ال الامتناع عن شرب الكحول والتدخين بما في ذلك الشاي والقهوة والمشروبات الغازية لمدة أسبوعين تقريبًا قبل عملية شفط الدهون تجهيز الملابس التي تكون مريحة يوم عملية شفط دهون ويجب ان تكون الملابس فضفاضة مريح في الارتداء ملائم لشفط كيف تستعد في يوم إجراء عملية شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو ؟ في البداية يجب التوقيع على وثيقة الموافقة أولا الموافقة على إجراء عملية شفط الدهون قياس أبعاد الجسم قبل الشفط تحديد المنطقة الذي سيتم فيه اجراء شفط دهون من قبل الطبيب أخذ المضاد الحيوي و دخول غرفة العمليات البدء بعملية شفط الدهون باستخدام التخدير الموضعي أو التخدير كامل على حسب الفرد عادة الذين يخضعون لعملية شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو بعد الشفط سيكونون قادرين على العودة الى المنزل لماذا أحتاج إلى إجراء عملية شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو لديها خبرة أكثر من 15 عاما لهدا تثق بها المرضى من حيث النتائج والمعايير المعتمدة ونحن على استعداد لتقديم المشورة حول عملية شفط الدهون وهناك جميع أنواع الاجهزة لشفط الدهون التي يمكن أن تساعد في ضبط نحت الجسم وتصميم الشكل تمامًا إلى جانب غرفة شفط الدهون التي حاصل على معايير السلامة والمعقمة، يمكن للعملاء الذين يتلقون الخدمة أن يكونوا واثقين من إجراء عملية شفط الدهون مع دكتورة. لوك نو فهو آمن و نتائج مرضية بالتأكيد مستشفى شفط دهون الاولى التي تثق به العملاء تقنية الاكثر شعبية استخدم تقنية اخفاء الجروح لا داعي للقلق من الندبات بعد العملية تصميم الشكل الفردي حل المشكلة في محلها بشكل فردي شفط الدهون بالراحة والاسترخاء بدون قلق شفط الدهون مع الدكتورة. لوك نو يوجد ما يصل الى 5 تقنيات وابتكارات الحديثة التقنيات في عملية شفط الدهون مهم في جعل نتائج عملية شفط الدهون فعالة وجميلة، لدى الدكتورة. لوك نو عمليات شفط الدهون الحديثة يمكن اختيار بما يتناسب مع المشكلة وتحليل المشكلة بشكل فردي على نقاط المشكلة للحصول على أفضل النتائج لجميع العملاء فيزر سموث شفط الدهون بجهاز فيزر سموث 2.2 هو شفط الدهون الذي يستخدم طاقة الموجات الصوتية بالموجات فوق الصوتية، وميزته أنه يستطيع شفط كمية كثير من الدهون مناسب للأشخاص الذين لديهم دهون كثيرة لزائدة بودي تايت Body Tite عملية شفط الدهون بجهاز بودي تايت هي عملية شفط الدهون باستخدام موجة تردد الراديو وميزة جهاز بودي تايت هي أنها تقوم بعملية شفط الدهون وشد الجلد في نفس الوقت مناسب للأشخاص الذين يريدون التخلص من الدهون مع شد الجسم يعتبر هذه الجهاز مناسب جدا بودي جيت Body jet انها عملية شفط دهون بالطاقة المائية والتي تعتبر طريقة لطيفة لشفط الدهون وميزته ناعم اي ان المريض لن يشعر بالألم وبعد الشفط سيكون هناك ألم بسيط أو كدمات، وبعد الانتهاء من عملية شفط الدهون يمكنه العودة إلى المنزل دون الحاجة إلى فترة تعافي ويمكن استخدام الدهون التي يتم شفطها لملء المنطقة المرغوبة، مثل ملء الدهون في الصدر والخدين والجبهة والخفسات وغيرها. لكل من يريد شفط الدهون بدون ألم ويريد وجهاً شاباً وثدياً كبيرا شفط الدهون باستخدام هذه الطريقة تعتبر أفضل طريقة ميكرواير بال Microaire PAL شفط دهون مع آلية الاهتزاز والميزة انه يمكن شفط الكثير من الدهون خلال وقت قصير وايضا يمكن الوصول إلى المناطق التي يصعب الوصول إليها يجعل من السهل جمع التفاصيل للأشخاص يريدون الشفط بسرعة بالاضافة الى شفط كمية كبيرة من الدهون مناسب مع جهاز ميكرواير بال جي بلازما إنها تقنية مناسب لشد الجلد بواسطة بلازما الهيليوم مع موجات الطاقة الترددي الراديوي للحصول على أفضاال النتائج آمان عالية ويمكن أيضا إجراؤها بعد عملية شفط الدهون لزيادة كفاءة الشد والحصول على نتائج واضحة مناسب للأشخاص الذين يرغبون في رفع وشد الجلد في المناطق المترهلة. يعد تقنية عملية شفط عاملاً مهمًا يجعل نتائج عملية شفط الدهون فعالة وجميلة، والدكتور لوك نو تختار استخدام تقنية الجمع باستخدام أكثر من آلة لشفط الدهون لتناسب مشاكل كل فرد تواصلوا معنا عبر واتس اب 66613255566+ رقم تواصل 0613255566 يوتيوب https://youtube.com/@DoctorLooknuu?si=G6wSatsXOd-v-oZ1 انستقرام https://www.instagram.com/kmbhospital.arab?igsh=MnhmaDAwYzR2bWM4 تيك توك https://vt.tiktok.com/ZSNntDm1W/
ถ้าจะมีสิ่งใดที่ทำให้ผู้หญิงเรากังวลได้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหา "ขาใหญ่" แน่นอนค่ะ เพราะการมีต้นขาที่ไม่เรียวสวย หรือดูย้วยจนเกินไปก็ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าสวมกางเกงรัดรูป แต่จะให้มาเริ่มออกกำลังกายลดต้นขาหนักๆ ก็อาจจะไม่สะดวก ดังนั้นจึงต้องหาตัวช่วยในการกำจัดไขมันขาใหญ่ที่เห็นผลชัดเจนมาทดแทน บทความนี้คุณหมอลูกหนูจะพาไปรู้จักกับ 6 รูปแบบ กำจัดไขมันขาใหญ่แบบไหนดีที่สุด !? สาเหตุของขาใหญ่ ปัญหาขาใหญ่ เกิดได้จากหลายปัจจัยมากๆ ค่ะ ไม่ว่าเราจะกินอะไร เราทำอะไร หรือเราละเลยอะไรไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ขาใหญ่ได้ทั้งหมด ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ทำให้ขาใหญ่เริ่มจากอาหารการกินเป็นอันดับแรกเลยค่ะ แน่นอนว่าเมื่อเรากินอาหารแบบไม่คำนึงถึงแคลอรี่ เน้นกินแป้ง กินไขมัน และน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ไม่หมด จนทำให้ไขมันไปสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ต่อมาเป็นเรื่องของพฤติกรรมที่ทำให้ขาใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ก็คือการละเลยการออกกำลังกาย เช่น การยืนหรือเดินนานๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อขาทำงานหนัก นานวันไปก็จะทำให้มัดกล้ามเนื้อแข็งขึ้นจนปูดออกมา ส่วนสาวๆ บางคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำ จะทำให้ระบบเผาผลาญรวมไปถึงการขับของเสียออกจากร่างกายทำงานผิดปกติ รวมไปถึงการละเลยการออกกำลังกายที่จะทำให้เกิดไขมันสะสม เช็คให้ชัวร์ ขาใหญ่เพราะอะไรกันแน่! ขาใหญ่เพราะไขมัน ✅นั่งเหยียดขาใช้มือบีบเนื้อบริเวณต้นขา ✅ดึงออกมา แล้วมีก้อนแข็งๆ หนาๆ ✅แสดงว่ามีไขมันสะสม ขาใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ ✅ยืดขาออกแล้วใช้มือจับที่ต้นขา ✅หากจับแล้วรู้สึกแข็งๆ มากกว่าผิวนิ่มๆ ✅แสดงว่ามีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน ขาใหญ่เพราะไขมันและมีผิวย้วย ✅ใช้มือจับที่ผิวบริเวณต้นขาและดึงออกมา ✅ถ้าดึงออกมาแล้วผิวไม่เด้งกลับ แสดงว่าผิวย้วย ✅รวมถึงมีก้อนไขมันหนาๆ ร่วมด้วย ✅ สลายไขมัน แบบไร้แผล ✅ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ✅ มี Short Pulse RF ทำลายเซลล์ไขมัน ✅ เซลล์ไขมันลดลงเฉลี่ย 40% ✅ ไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิว ✅ ปลอดภัย ทำพร้อมกันได้ทุกจุด คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ ) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-533-0444 [[ LINE ID ]] @kmbhospital (มี @ ด้วยนะคะ ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน ✅ ปลอดภัย ✅ใส่ใจทุกขั้นตอน ✅ดูแลอย่างใกล้ชิด ✅ ได้มาตรฐาน โดย คุณหมอลูกหนู และทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง
รู้หรือยัง? เรา อ้วนแบบไหน !? ผู้หญิงอย่างเราทุกคนล้วนฝันที่จะมีหุ่นสวย หรือรูปร่างที่ดี เพื่อความมั่นใจในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน แต่คงจะดีกว่า . . . หากรู้ว่า เรามีหุ่นหรือรูปร่างอยู่ในลักษณะแบบไหน? ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าตา ผิวพรรณ เรื่องรูปร่างนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้หญิงอย่างเราไม่ควรมองข้าม เรื่องนี้มีประโยชน์และสำคัญต่อตัวผู้หญิงอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของความอ้วน และช่วยให้เราได้รู้ว่ารูปร่างของเรามีจุดไหนที่เด่น และตรงจุดไหนที่บกพร่อง ซึ่งถ้าเรารู้แล้ว เราก็สามารถที่จะปรับแก้หรือปิดอำพรางส่วนที่บกพร่องของรูปร่างเราได้ ซึ่งวันนี้คุณหมอลูกหนูจะพาไปดูกันว่า รูปร่างแบบไหน เสี่ยงต่อโรคร้ายมากกว่ากันค่ะ อ้วนแบบไหน อันตรายมากกว่ากัน หลายคนไม่ทราบเลยว่าตัวเองนั้นมี หุ่นหรือรูปร่างแบบไหน? ดังนั้นวันนี้คุณหมอลูกหนูจึงมี Checklist ให้มาลองสังเกตกันว่า ตอนนี้เรามีหุ่นหรือรูปร่างอยู่ในลักษณะไหน และมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ที่เราจำเป็นต้องรู้ เพื่อหาวิธีการแก้ไขให้ได้สุขภาพที่ดีและความมั่นใจกลับคืนมา หุ่นทรงลูกแพร์ (Pear Shape Body) รู้ได้อย่างไรว่าคุณมีหุ่นทรงลูกแพร์ สาวหุ่นลูกแพรนั้นจะมีช่วงไหล่ที่แคบแต่มีสะโพกที่กว้าง คือ คนที่มีช่วงล่างใหญ่ หากวัดเป็นตัวเลข สะโพกจะใหญ่กว่าช่วงไหล่ หรือช่วงอกประมาณร้อยละห้า ซึ่งทำให้มีไขมันสะสมที่บริเวณสะโพกเยอะทำให้ต้นขาใหญ่ และดูตัวสั้น ดูอ้วน ไม่สูงเพรียว เนื่องจากมีไขมันสะสมมากบริเวณ เอว สะโพก ต้นขา ลักษณะสาวหุ่นลูกแพร์ ช่วงไหล่โค้งลาดลง เอวโค้งเว้าสวยงาม สะโพกกว้างกว่าช่วงไหล่ น้ำหนักตัวจะสะสมบริเวณต้นขา บั้นท้ายกับต้นขากลมกลึงและเต่งตึง ข้อดีของสาวหุ่นลูกแพร์ คือช่วงกลางลำตัวยังพอมีเอวที่คอดทำให้ดูไม่อ้วนมากนัก ทำให้ช่วงบนมีความสมดุลกับช่วงล่างที่กว้างกว่าได้ โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับคนที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ ได้แก่ การวิ่งเร็ว การสควอท การกระโดด การปั่นจักรยาน การทำท่าแพลงก์ การวิ่ง(ด้วยความเร็วคงที่) การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ท่าบริหารที่เน้นช่วงขา เชิงกราน การออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว และการออกกำลังกายที่เน้นช่วงล่างของร่างกาย วันละ 30-60 นาที สำหรับคนที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ จะสามารถเผาผลาญแคลอรีไปได้มากถึง 2 - 1,000 แคลอรี เลยทีเดียว คนที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ มักจะต้องปวดใจกับปัญหาไขมันชั้นใต้ผิวหนัง Subcutaneous Fat เมื่อร่างกายได้รับไขมันเข้ามาในปริมาณมากจนไม่สามารถเผาผลาญได้ทัน อันดับแรกไขมันก็จะเข้ามาสะสมอยู่ภายในช่องท้อง อันดับต่อมาก็จะเป็นชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งก็คือชั้นที่กำลังพูดถึง ภายในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง หรือเข้าใจง่าย ๆ คือ เซลลูไลท์ บนร่างกายนั้นเอง ไขมันที่พบได้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากจะทำให้พุงยื่น พุงป่อง ออกมา ความหนาของไขมันชั้นนี้ สามารถวัดได้จากเครื่องหนีบวัดไขมันหรือวัดเบื้องต้นด้วยตัวเราเองโดยใช้มือบีบหยิบขึ้นมาได้ ซึ่งไขมันชั้นใต้ผิวหนังนี่เองที่สามารถทำการ ดูดไขมัน ออกได้ หุ่นทรงแอปเปิ้ล (Apple Shape Body) สาวหุ่นแอปเปิ้ลนั้นมีโครงร่างขนาดใหญ่ กล่าวคือ ช่วงไหล่และสะโพกที่กว้างทำให้มีไขมันสะสมที่บริเวณต้นแขนและสะโพกเยอะ ช่วงกลางลำตัวจะใหญ่ และช่วงขากลับมีขนาดเล็กและบางที่สุดของร่างกาย ซึ่งลำตัวที่สั้นทำให้หุ่นดูอ้วนตัน เอวหนา ไม่เพรียว ไขมันมักสะสมอยู่บริเวณไหล่ แขน และลำตัวส่วนบน ลักษณะสาวหุ่นแอปเปิ้ล อาจมีช่วงลำตัวสั้น ช่วงกลางลำตัวใหญ่กว่าสะโพก สะโพกช่วงบนกว้างกว่าสะโพกช่วงล่าง ช่วงต้นแขนและช่วงต้นขาเรียวเล็กและสั้นกว่า ต้นขา หรือสะโพกอาจเป็นส่วนที่แคบที่สุดของร่างกาย น้ำหนักตัวจะขึ้นบริเวณรอบเอวเป็นหลัก เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆของร่างกาย สะโพกกับไหล่มีความกว้างเท่ากัน ส่วนรอบเอวอาจกว้างเท่ากันหรือกว้างกว่า การออกกำลังกายที่เหมาะกับสาวที่มีหุ่นแอปเปิ้ลแบบนี้ ควรเป็นการออกกำลังกายที่เน้น ในการบริหารกล้ามเนื้อต้นแขน และหัวไหล่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เน้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ได้แก่ การวิดพื้น การยกเวท การสควอท การออกกำลังกายแบบ HIIT การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบ Deadlift คนที่มีหุ่นทรงแอปเปิ้ล ไม่ค่อยดูแลรูปร่างของตัวเอง มักจะมีภาวะไขในช่องท้อง หรือ Visceral Fat เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายรับสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก และร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน พวกคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลที่ได้รับมาเกินไปก็จะเปลี่ยนรูปเป็นไขมันเช่นกัน ไขมันที่ได้รับนั้นจะแทรกซึมเข้าไปเกาะติดอยู่ภายในอวัยวะต่าง ๆ และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ไขมันในช่องท้อง อันตรายกว่าที่คิด ไขมันที่สะสมอยู่ลึกกว่าชั้นใต้ผิวหนัง และอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องลงไปอีก โดยจะอยู่รอบอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ หลอดเลือด เป็นต้น เมื่อสะสมเป็นเวลานานๆ ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากขึ้น ทำให้มีพุงยื่นออกมา และมีรอบเอวหนา ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ซึ่งไขมันในช่องท้องชั้นนี้ ไม่ สามารถดูดไขมันออกได้ หากจะทำการลดไขมันในชั้นนี้ ต้องลดน้ำหนัก คุมอาหาร และออกกำลังกาย โรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นแน่ หากยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนลงพุงต่อไป ภาวะภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ ภาวะไขมันพอกตับ โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เรา “อ้วน” หรือยังนะ? ค่า BMI บอกได้ว่า “คุณอ้วนหรือไม่?” BMI (Body Mass Index) หรือดัชนีมวลกาย เป็นเกณฑ์สากลที่สามารถประเมินความอ้วน หรือผอม สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สามารถวัดได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง จากสูตรคำนวณ BMI = kg/m2 สูตรคำนวณหา BMI ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว(กิโลกรัม) / ส่วนสูง(เมตร)2 ผอมเกินไป = BMI น้อยกว่า 18.5 น้ำหนักน้อยกว่าปกติเสี่ยงเป็นโรคได้เช่นกัน เนื่องจากการรับสารอาหารอาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายอ่อยเพลียง่าย ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน และออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ น้ำหนักปกติ = BMI 18.5 - 22.9 น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคนไทย จะมีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5 ถึง 22.9 ซึ่งสามารถห่างไกลจากโรคที่เกิดจากความอ้วน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ น้อยที่สุด น้ำหนักเกิน = BMI 23.0 – 24.9 เป็นกลุ่มผู้ที่มีความอ้วนอยู่บ้าง ถ้าหากว่าประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ถือว่ายังมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ อ้วน (อ้วนระดับ 1) = BMI 25.0 – 29.9 คนกลุ่มนี้ถึงแม้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้เช่นกัน ทั้งโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ควรเริ่มออกกำลังกาย และควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี อ้วนมาก (อ้วนระดับ 2) = BMI ตั้งแต่ 30.0 ขึ้นไป คนกลุ่มนี้ถือว่าค่อนข้างเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้มากที่สุด ควรปรับพฤติกรรมการกินอาหาร และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ “เช็คอ้วน” ด้วยเส้นรอบเอว หรือ เส้นรอบพุง การวัดเส้นรอบเอวหรือเส้นรอบพุง สามารถวัดได้ในตำแหน่งใต้สะดือแบบขนานกับพื้นช่วงตอนเช้าก่อนกินอาหาร รัดสายวัดให้กระชับลำตัวไม่แน่นจนเกินไป และอ่านค่าในจังหวะหายใจออกพอดี ซึ่งผู้ชายจะต้องมีค่าเส้นรอบเอวไม่เกิน 90 เซนติเมตร และผู้หญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร ถ้าเส้นรอบเอวใหญ่เกินกว่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ จากโรคอ้วนได้ เพราะฉะนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักทั้งตัวหรือกังวลกับตัวเลขน้ำหนักตัวบนตราชั่ง เพื่อแลกกับการมีหุ่นสวยอีกต่อไปแล้วค่ะ แค่เปลี่ยนมาเป็นการรักษาที่ต้นเหตุของความอ้วน เพียงเท่านี้การมีหุ่นสวยก็จะไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป คุณหมอลูกหนู มีตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนที่ต้องการมีหุ่นสวย สุขภาพดี แบบปลอดภัย มาแนะนำค่ะ Signature Slim เป็นโปรแกรมการลดน้ำหนัก ที่แตกต่างจากวิธีอื่นๆ เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของความอ้วน โดย คุณหมอลูกหนู จะออกแบบโปรแกรมให้เฉพาะบุคคล นับได้ว่าเป็นตัวช่วยให้หุ่นสวยสุขภาพดี ซึ่งรับรองถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ลดจริง ลดเร็ว ไม่โทรม โปรแกรม Signature Slim โดยคุณหมอลูกหนูมีหน้าที่เพื่อช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน เพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย แถมยังเป็นตัวช่วยในการลดความอยากอาหาร ลดไขมัน เรียกได้ว่าผอมแบบปลอดภัย และสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ คุณหมอลูกหนู พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิเคราะห์หาสาเหตุต้นตอของการมีภาวะน้ำหนักเกิน โดยการวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าแต่ละท่านอย่างตรงจุด และออกแบบการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุด หากใครที่สนใจอยากให้ คุณหมอลูกหนู ดูแลคุณ เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจในรูปร่าง และมีสุขภาพดีอีกครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดคิวปรึกษาคุณหมอได้เลยนะคะ ทักแชทมาปรึกษาได้เลยค่ะ คุณหมอลูกหนู พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิเคราะห์หาสาเหตุต้นตอของการมีภาวะน้ำหนักเกิน โดยการวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าแต่ละท่านอย่างตรงจุด และออกแบบการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุด คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-533-0444 [[ LINE ID ]] @kmbhospital (มี @ ด้วยนะคะ) ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน ✅ ปลอดภัย ✅ใส่ใจทุกขั้นตอน ✅ดูแลอย่างใกล้ชิด ✅ ได้มาตรฐาน โดย คุณหมอลูกหนู และทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง
ดูดไขมันที่ไหนดี‼ พิจารณาจากอะไรบ้าง? คำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยและให้ความสนใจคือ “ดูดไขมันที่ไหนดี พิจารณาจากอะไรบ้าง” การดูดไขมัน เป็นนวัตกรรมการดูดไขมันกำจัดส่วนเกินที่เป็นปัญหาของรูปร่างที่นิยมมากในปัจจุบัน รอยแผลเล็ก ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ไม่เป็นอันตราย การดูดไขมันสามารถดูดไขมันได้ทั้งตัว หรือเลือกเฉพาะจุด ที่เป็นปัญหาและกังวลจริงๆ ซึ่งการดูดไขมันต้องทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันโดยตรง ถ้าเราเลือกสถานที่ไม่ดี หรือแพทย์ไม่มีความชำนาญอาจทำให้เกิดปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดอันตราย ให้กับร่างกายได้ บางท่านถึงกับต้องเสียเงินแก้ไขหลายรอบ ผลที่ได้ไม่เป็นที่พึงพอใจ คุณหมอลูกหนู มีหลักในการเลือกสถานที่ดูดไขมันมาแนะนำ ดังนี้ค่ะ ประวัติและผลงานของแพทย์ ก่อนทำการดูดไขมันเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ต้องทำการศึกษาฝีมือการรักษาของแพทย์ ว่ามีประวัติการรักษามาแล้วกี่เคส ดูดไขมันมานานแค่ไหนแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาหลังการดูดไขมันของคนไข้เป็นอย่างไรบ้าง เพราะการดูดไขมันอาศัยฝีมือในการดูดไขมันเป็นปัจจัยหลัก ในบางท่านอาจคิดว่าการดูดไขมันจะดูดไขมันกับแพทย์คนไหนก็ได้ แต่หลักความเป็นจริงนั้น เราควรดูดไขมันกับแพทย์ที่มีความชำนาญ ดูดไขมันอย่างไรให้สวย ทิ้งรอยแผลน้อย ดูดไขมันแล้วสรีระเล็กลงเห็นได้ชัด ฝีมือของแพทย์สำคัญที่สุด แพทย์ที่มีความชำนาญในการดูดไขมัน คือแพทย์ที่ทำการศึกษาเทคนิคการดูดไขมันมาเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ในการดูดไขมันมาแล้วหลายเคส แพทย์เข้าใจสรีระของคนไข้เป็นอย่างดี แพทย์ที่มีความชำนาญจะรู้ว่าดูดไขมันไปแค่ไหนถึงจะทำให้สัดส่วนเปลี่ยนแปลง ผิวบริเวณที่ดูดไขมันเรียบสวย ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้ทุกเคส ประสบการณ์ของคลินิก ในปัจจุบัน มีสถานเสริมความงามที่ทำการดูดไขมันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจของหลายๆคลินิก เนื่องด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่างทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง หลายๆท่านได้รับผลกระทบโดยตรง การใช้จ่ายเงินช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังมากขึ้น หลายท่านจึงต้องการดูดไขมันเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างในราคาที่ประหยัด และมีการบริการที่ดีเยี่ยม ให้เหมาะสมกับราคาที่หลายๆคนลงทุนกับความสวย หลายสถานบริการดูดไขมันลดต้นทุนลง คุณภาพของคลินิกลดลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจ การลดต้นทุนลงหรือแม้กระทั่งลดคุณภาพของพนักงานบริการและพนักงานดูแลลง ส่งผลให้การบริการไม่ดีเทียบเท่าคลินิกที่ถึงแม้ได้รับผลกระทบแต่ไม่ได้ลดคุณภาพของการบริการลง อีกทั้งไม่ลดคุณภาพของคลินิกลงยังคงมาตรฐานที่ดีเยี่ยมไว้ ดังนั้นคนไข้ควรทำการศึกษาคลินิกดีๆ ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสถาบันความงามที่ทำการดูดไขมัน ยังเปิดทำการโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและคำนึงถึงผลลัพธ์หลังทำการรักษา เป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ ทุกเคสมั่นใจได้ว่าออกมาสวยแน่นอน คลินิกไม่ได้ลดคุณภาพการรักษา และนำแพทย์ที่มีความชำนาญมาทำการดูดไขมันให้ อีกทั้งแพทย์ไม่มีปัญหาการทำเคสผิดพลาด เพื่อความเชื่อมั่นให้กับคนไข้ ก่อนทำการดูดไขมันทุกเคสว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน ความสะอาดของสถานที่ดูดไขมัน อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย สิ่งสำคัญที่สุดของสถานบริการด้านความงามนั้น สถานที่ที่ใช้ในการต้อนรับถือเป็นอันดับแรกที่หลายคนให้ความสนใจ สถานที่จะต้องสะอาด ให้คนไข้รู้สึกปลอดภัย เมื่อมาใช้บริการ และต้องได้มาตรฐานสถาบันความงาม ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลและดูรูปสถานที่ได้ในเว็บไซต์ของทางคลินิก เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกสถานที่ดูดไขมัน สถานที่ดูดไขมันที่มีขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งอย่างสวยงามสะอาด เป็นระเบียบ ถือว่าสถานที่นั้นได้มาตรฐานพอสมควร อาคารที่ตั้งของคลินิกต้องเป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการอย่างถูกกฎหมาย ห้องที่ทำการดูดไขมัน ต้องเป็นห้องที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่อย่างครบถ้วน และต้องเป็นอุปกรณ์ที่สะอาดพร้อมใช้ สิ่งที่นำเสนอรูปภาพของห้องผ่าตัดออกไป ห้องที่ใช้งานจริงก็ควรเป็นไปตามภาพจริงที่ลงไว้ เพราะถ้าหากคนไข้ทำการดูดไขมันในสถานที่ไม่สะอาด จะส่งผลให้แผลผ่าตัดเกิดการติดเชื้อได้ ผลลัพธ์การดูดไขมันก็จะลดลงตามไปด้วย เลือกวิธีการดูดไขมัน ในหลายๆสถานที่จะมีการใช้ภาพการรีวิวดูดไขมันที่ได้ผลดีและสวยที่สุดเสมอ ทำให้ตัวคนไข้เองไม่ได้คำนึงถึงเครื่องมือที่นำมาใช้ดูดไขมันมากพอสมควร สนใจแค่ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ทำการศึกษาข้อมูลของเครื่องมือโดยละเอียด ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดที่นำมาดูดไขมันนั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราควรมีความรู้พื้นฐานของการดูไขมันรวมไปถึงเครื่องมือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันที่ดีที่สุด เรามาดูข้อแตกต่างของการดูดไขมันโดยวิธีต่างๆได้ดังนี้ค่ะ 1.ดูดไขมัน VASER (UAL) เป็นการดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ทำให้สามารถสลายไขมันปริมาณมาก ภายในครั้งเดียว ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก การดูดไขมันโดยใช้เครื่อง VASER ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานกว่าเครื่องมือชนิดอื่น หลังดูดไขมันคนไข้จะรู้สึกอาการบวมช้ำมากและระบมบริเวณที่ดูดไขมัน แต่วิธีนี้ได้รับความนิยมเพราะมีราคาถูกกว่าเครื่องมืออื่น 2. ดูดไขมัน Bodytite (RFAL) การดูดไขมันด้วยวิธีนี้เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงของและยังได้รับการยอมรับจาก US FDA และ THAI FDA สามารถดูดไขมันและกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน เครื่องมือนี้เหมาะกับผู้ที่อยากดูดไขมันหลายบริเวณและอยากให้ไขมันออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความต้องการให้ผิวบริเวณที่ดูดเกิดการกระชับด้วย และยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว 3.ดูดไขมัน J-Plasma เป็นเครื่องดูดไขมันที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยยกกระชับผิวและสัดส่วนที่ผสมผสาน พลังงานระหว่างพลาสมาฮีเลียม และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมากสามารถทำ J-Plasma ควบคู่ไปกับการดูดไขมัน จะยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการดูดไขมันมีความกระชับมากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย 4.ดูดไขมันด้วย Microaire PAL มีข้อดีคือ จะไม่เกิดความร้อนสะสมมากเท่าเครื่องเวเซอร์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้มากกว่าเดิม เกิดรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ เพราะความถี่ในการสั่นช่วยให้ดูดไขมันได้ดีขึ้น เทคโนโลยีการสั่นของไมโครแอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ปริมาณการดูดไขมันไหลออกมาได้เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีพังผืดดูดไขมันยาก การใช้ระบบสั่นสะเทือนจากเครื่อง Microaire PAL จะช่วยให้ใช้หัวปลายทู่ได้ดีขึ้น เบาแรงหมอ และลดความเจ็บของคนไข้ในระหว่างดูดไขมันลง ความจริงใจต่อลูกค้า ทั้งก่อนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน คลินิกและสถาบันความงามต้องจริงใจต่อลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันอย่างถูกต้องและชัดเจน พนักงานผู้ดูแล รวมถึงแพทย์ ต้องให้คำปรึกษากับตัวคนไข้ได้ ข้อมูลที่ให้ผ่านทางโซเชียล หรือตามช่องทางต่างๆ ก็ต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และชัดเจน เพื่อแสดงความจริงใจต่อตัวลูกค้าเอง หลังดูดไขมันไปแล้ว การบริการก็จะยังไม่จบไป บริการที่ได้มาตรฐานจริง ๆ ต้องมีการติดตามผลหลังดูดไขมันอย่างน้อย 1-2 เดือนยิ่งในช่วงสัปดาห์แรกยิ่งต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะช่วงสัปดาห์แรก อาจเกิดปัญหาขึ้นในบุคคลที่เป็นกังวล เพราะจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกจากแผล 1-2 วันถึงจะหยุดไป ในสถานบาลของเราจะมีการโทรสอบถามอาการของคุณลูกค้าโดยตรง และยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางไลน์แอดของคลินิกได้โดยตรง ที่คลินิกของเราจะคิดราคาค่าใช้จ่าย และแจ้งราคากับตัวลูกค้าตามจริงก่อนทำการดูไขมัน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการดูดไขมันบริเวณไหน หรือของแถมที่คุณลูกค้าจะได้รับไปนั้นทางคลินิกจะแจ้งรายละเอียดอย่างครบถ้วน ชมคลิป ดูดไขมันออกแล้ว โล่ง ลดจริง ลดไว ที่คุณหมอลูกหนู ชมคลิป หุ่นสวยแล้ว "แผล" ต้องสวยด้วยดูดไขมัน ที่คุณหมอลูกหนูแผลเล็กม๊าก ทักแชทมาปรึกษาได้เลยค่ะ คุณหมอลูกหนู “ตัวจริง” เรื่องการดูดไขมัน ประสบการณ์ยาวนานกว่า 14 ปี ✔️แผลเล็ก ✔️เจ็บน้อย ✔️ไม่ต้องพักฟื้น
ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน คุณหมอจะมาให้คำแนะนำ ดังนี้ค่ะ คุณหมอลูกหนูแนะนำ การดูดไขมันเป็นวิธีที่กำจัดไขมันได้แทบทุกส่วนของร่างกาย ปรับลดสัดส่วนได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยแก้ปัญหารูปร่างที่มีส่วนเกิน ซึ่งการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายนั้นจะช่วยสร้างบุคลิกภาพของตัวบุคคลนั้นดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว การดูดไขมันจะช่วยลดปริมาณไขมันบริเวณส่วนต่างๆของร่างกายที่สะสมเฉพาะที่ลงได้ ไขมันไม่สามารถดูดไขมันปริมาณมากได้ในครั้งเดียวเพราะอาจมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมาก ซึ่งคุณหมอลูกหนูจะทำการรักษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน? 1.คนที่เหมาะกับการดูดไขมันคือคนที่มีปริมาณไขมันสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งไขมันจะสะสมอยู่ตามจุดต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะหน้าท้องจะสะสมไขมันไว้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังมีอีกหลายบริเวณที่สะสมไขมันเอาไว้ บางคนสะสมทั่วร่างกาย บางคนมีปัญหาแค่ไม่กี่จุด เช่นตัวเล็กแต่ขาใหญ่ แขนใหญ่รูปร่างไม่สมส่วน พุงปลิ้นใส่กางเกงแล้วรู้สึกอึดอัด ซึ่งปัญหาของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันออกไป 2.คนที่สามารถดูดไขมันได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีการสะสมของไขมันใบบริเวณใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งการสะสมไขมันในบริเวณนี้นั้นสามารถดูดไขมันเพื่อกำจัดออกไปได้ แต่ถ้ามีไขมันในช่องท้องการกำจัดไขมันโดยการดูดไขมันจะไม่สามารถทำการดูดไขมันได้ ต้องอาศัยระบบเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งสองวิธีนี้สามารถทำควบคู่กันไปได้ เพื่อที่หน้าท้องจะได้แบนราบตามความต้องการของเราเอง 3.มีการสะสมไขมันในร่างกายมากเกินไปจนทำให้บริเวณนั้นๆ ดูเด่นชัดขึ้นมา บางท่านกลายเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตเพราะขาดความมั่นใจ การดูดไขมันจะช่วยกำจัดส่วนเกินที่เด่นชัดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน 4.ผู้ที่มีผิวหนังที่ไม่หย่อนคล้อยมากผิวยังมีความเต่งตึงอยู่ ก็สามารถที่จะทำการดูดไขมันได้ ส่วนผู้สูงอายุบางท่านที่มีผิวหย่อนคล้อยมากนั้น บางครั้งการดูดไขมันอาจจะไม่ใช่ทางออกสำหรับบุคคลกลุ่มนี้ 5.การดูดไขมันจะเหมาะกับบุคคลที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวไม่มาก ไม่อยากที่จะตัดหนังหน้าท้อง เพราะกลัวเนื่องจากการตัดหนังหน้าท้องนั้นต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และยังทิ้งรอยแผลเป็นที่ใหญ่เอาไว้อีกด้วย การดูดไขมันก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะแพทย์จะทำการเปิดแผลเล็ก ไม่ต้องพักฟื้น และยังสามารถทำให้หน้าท้องยุบลงได้จริง 6.ดูดไขมันเหมาะกับบุคคลที่ไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง โรคที่ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมัน เช่น ความดันสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือคนที่ไม่ได้ทานยาเพื่อควบคุมโรค , โรคหัวใจ ก็ไม่สามารถทำการดูดไขมันได้ เนื่องจากการดูดไขมันจะมีการเติมน้ำเกลือยาชา ซึ่งอาจส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งทำให้เกิดอันตรายได้ ,น้ำตาลในเลือดสูง ถ้าอยู่ในระดับควบคุมของแพทย์กก็สามารถทำการดุไขมันได้ , โรคที่ควรหลีกเลี่ยงคือ โรค เบาหวาน เพราะเป็นโรคที่ทำให้แผลผ่าตัดอาจจะหายช้า ง่ายต่อการติดเชื้อ แต่ถ้าแพทย์อนุญาตหรือคนไข้ทานยาควบคุมโรคไว้ ก็สามารถที่จะทำการดูดไขมันได้ สัญญาณเตือน! คุณควรรีบดูดไขมัน 1.ก้มหน้าแล้วมีเหนียง สาวๆ หลายคนมีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใบหน้า ใต้คางหรือเรียกว่าเหนียง เวลาถ่ายรูปแล้วรูปออกมาไม่สวย มุมก้มหน้าก็จะมีเหนียงที่เด่นชัด ทำให้กรอบหน้าไม่สวยคางไม่ชัด การดูดไขมันจึงเป็นทางออกที่สามารถกำจัดไขมันออกไปได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าคมชัดแบบถาวรอีกด้วย 2. กางเกงหรือกระโปรงตัวเดิมเริ่มคับใส่ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน รูปร่างและสัดส่วนที่สวยงามเป็นปัญหาของคุณผู้หญิง ข้อสังเกตที่เราควรกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปซะนั้นดูได้จาก เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ในแต่ละวัน บางท่านรู้สึดอึดอัดเวลาสวมใส่ทั้งที่เมื่อก่อนเสื้อผ้าตัวนี้เราสามารถใส่ได้สบายไม่คับเท่าตอนนี้ นั่นเป็นเพราะห่วงยางรอบเอวของเรามีขนาดใหญ่ขึ้น จึงทำให้รอบเอวใหญ่ตามไปด้วย https://www.youtube.com/watch?v=PH46LoBKJVE https://www.youtube.com/watch?v=hzR6rvceWJs 3.พุงใหญ่เป็นชั้นๆ หน้าท้องเป็นส่วนที่ค่อนข้างเด่นชัดมากที่สุดในร่างกายนะคะ มีรอบเอวที่เพิ่มมากขึ้น หากรู้สึกว่าพุงของเราเริ่มย้อย ไม่กระชับเหมือนเมื่อก่อน มีส่วนเกินปลิ้นออกมาเวลาใส่เสื้อผ้าหรือสวยกางเกง นั่นหมายถึงเราเริ่มมีไขมันสะสมมากขึ้น ยิ่งถ้าน้ำหนักขึ้นแล้วหน้าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมากๆ จะเป็นการอ้วนที่อันตรายมากๆนะคะ เพราะหากมีมวลไขมันสะสมในช่องท้องมากๆการใช้ชีวิตก็จะลำบากมากขึ้น ดังนี้เราจึงควรกำจัดไขมันตรงนี้ออกไปจากร่างกายเรา 4. ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ถ้าเราตรวจดูแล้วมีมวลไขมันมีมากกว่ากล้ามเนื้อสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือผิวของเราก็จะเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเพราะมวลไขมันที่มีมากกว่ากล้ามเนื้อ คุณผู้หญิงสังเกตตัวเองในกระจกดูว่าท้องของเราดูหย่อนๆหรือเปล่า แขนของเราเริ่มห้อยๆ หรือผิวส่วนอื่นๆ เริ่มไม่กระชับมองดูไม่สวยงาม การกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจึงเป้นสิ่งที่ควรทำ เพื่อรูปร่างที่สมส่วนและสวยงาม ก่อนดูดไขมันต้องเช็ค BMI ดัชนีมวลกาย หรือเรียกทั่วไปว่า บีเอ็มไอ ( Body Mass Index : BMI ) = น้ำหนักตัว ( กิโลกรัม ) / ( ส่วนสูง ( เมตร ) หรือ Body weight ( kg ) / ( Hight (m)2 ) ซึ่งเมื่อคำนวณค่า BMI ออกแล้ว สามารถระบุได้ว่าร่างกายมีไขมันส่วนเกินหรือไม่ เพื่อทำการยืนยันว่าค่าดัชนีมวลกายที่เกินนั้นเป็นปริมาณของไขมันหรือปริมาณของกล้ามเนื้อ ทำได้ด้วยการตรวจวัดปริมาณไขมันโดยการแปลงค่าเพื่อหาเปอร์เซ็นต์ของปริมาณไขมันที่มีอยู่ในร่างกายที่มีความเฉพาะเจาะจง สามารถคำนวณจากค่า BMI ได้ดังนี้ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย = ( 1.20 x BMI ) + ( 0.23 x อายุ ) – ( 10.8 x เพศ ) – 5.4 ซึ่งค่าของเพศหญิงจะมีค่าเท่ากับ 1 และค่าของเพศชายจะมีค่าเท่ากับ 0 ดังนั้นคุณหมอจึงแนะนำให้คนไข้เข้ามาปรึกษาและวัดสัดส่วนกับคุณหมอโดยตรงเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรดูดไขมันหรือไม่ ทำไมคนอ้วน ถึงไม่เหมาะและไม่ควรดูดไขมัน การดูดไขมันนั้นเหมาะกับคนที่มีรูปร่างประกอบกับน้ำหนักตัวที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งการดูดไขมันนั้นนิยมดูดไขมันเฉพาะส่วน การดูไขมันทั้งตัวนั้นต้องให้แพทย์เป็นคนพิจารณา บริเวณที่สามารถดุไขมันได้นั้นต้องเป็นบริเวณที่มีการสะสมของไขมันและกำจัดได้ยาก แม้ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้วนั้นก็ไม่สามารถทำให้ส่วนเกินนั้นหายไปได้เอง การดูดไขมันไม่ได้ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก ไม่ได้ดูดไขมันเพื่อรักษาโรคอ้วน การดูดไขมันไม่ใช่การลดความอ้วน แต่เป็นการกระชับสัดส่วนให้มีรูปร่างที่ดีขึ้นสัดส่วนเข้าที่มากขึ้น การดูดไขมันนั้นไม่ได้มีการการันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวร แต่จะเป็นตัวช่วยให้รูปร่างดีขึ้นสัดส่วนเล็กลง ข้อควรระวังของคนอ้วน คนอ้วนมีระดับอันตรายในการศัลยกรรมแทบทุกชนิด แม้กระทั่งการดูดไขมันก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายเกิน 35 ขึ้นไป ควรเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแทนการดูดไขมัน โรคที่ควรระวังและสามารถรักษาโดยการดูดไขมัน คือโรค Lipedema คือโรคที่ทำให้ผิวหนังเกิดความผิดปกติ ส่วนใหญ่ปรากฏที่ขาของผู้หญิงซึ่งถูกทำให้เสียโฉมด้วย“ เซลลูไลท์” ที่เห็นได้ชัดและสามารถกำจัดออกไปได้ยาก สาเหตุของโรคนี้คือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมีความบกพร่องทางพันธุกรรมบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกาย ก่อนทำการรักษาจำเป็นต้องมีการตรวจร่างกายก่อนเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง สรุป ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน ใครที่เหมาะกับการดูดไขมันนั้นมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกันไป ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะรูปร่างรวมถึงสรีระของตัวคนไข้ ปริมาณไขมันที่สะสมในร่างกายก็เป็นปัจจัยหลัก โรคประจำตัวที่มีข้อจำกัด ต้องได้รับคำแนะนำจากทางการแพทย์ถึงจะสามารถทำการดูดไขมันได้ ทางเราแนะนำให้ตัวคนไข้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อที่จะได้รับข้อมูลตามจริง ประกอบการตัดสินใจว่าควรดูดไขมันหรือไม่ สำหรับบุคคลที่กำลังตัดสินใจจะดูดไขมัน ควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันและขั้นตอน การดูดไขมัน เพื่อป้องกันการผิดพลาดหรือปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ขั้นตอนการดูดไขมัน เป็นการดูดเอาไขมันที่ ไม่ต้องการในบริเวณต่าง ๆ ในร่างกายออกด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ทักแชทมาปรึกษาได้เลยค่ะ คุณหมอลูกหนู พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิเคราะห์หาสาเหตุต้นตอของการมีภาวะน้ำหนักเกิน โดยการวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าแต่ละท่านอย่างตรงจุด และออกแบบการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุด คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-533-0444 [[ LINE ID ]] @kmbhospital (มี @ ด้วยนะคะ) ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน ปลอดภัย ใส่ใจทุกขั้นตอน ดูแลอย่างใกล้ชิด ได้มาตรฐาน โดย คุณหมอลูกหนู และทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง
ดูดไขมันหน้าท้องพร้อมยกกระชับ ดียังไง ทำไมต้องทำ !? เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับใครหลายคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน บริเวณหน้าท้องทำให้เกิดพุงป่อง พุงยื่นออกมา และมีปัญหาเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อยและไม่กระชับร่วมด้วย หรือคนที่กำลังตัดสินใจ ดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อเอาไขมันส่วนเกินออก แต่กังวลเรื่องหลังทำการดูดไขมัน บริเวณหน้าท้อง จะเกิดความย้วย หย่อน ผิวไม่กระชับหรือไม่ ปัจจุบันการดูดไขมันหน้าท้องพร้อมยกกระชับ หรือที่ทำไปพร้อมกัน กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะได้หุ่นสวย รูปร่างที่ดีแล้ว ยังได้ความเฟิร์มกระชับ เรียบเนียบของผิวไปพร้อมกันอีกด้วย ไร้กังวลเรื่องผิวหนังจะหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียนไปได้เลยค่ะ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันเพื่อหุ่นสวยและอยากได้ผิวที่กระชับหลังทำทันที ไม่ต้องเสียเวลามาทำโปรแกรมกระชับผิวซ้ำหลายครั้ง ดูดไขมันหน้าท้องพร้อมยกกระชับ เทคนิคล่าสุด พร้อมกระชับผิวหลังทำทันทีหลังทำ 1.Renuvion j plasma Renuvion j plasma เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากสหรัฐอเมริกาที่คิดค้นมาเพื่อการยกกระชับผิวให้เรียบตึง ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย โดยใช้หลักการทำงานของพลาสม่าฮีเลี่ยมผสานกับพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความปลอดภัยสูง และยังอ่อนโยนต่อเซลล์ผิวอีกด้วย ข้อดีของ Renuvion j plasma ✅สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผิวจะกระชับมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องหลังทำ 3-6 เดือน ✅ยกกระชับผิวได้อย่างแม่นยำ และตรงจุด ✅ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหลังทำ ✅หลังทำผิวจะกระชับในระยะยาว โดยไม่ต้องทำซ้ำติดต่อกัน ✅สามารถยกกระชับผิวได้แทบทุกส่วนในร่างกาย ✅เหมาะกับการทำ Six Pack และ Sexy Line ✅ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วหลังดูดไขมัน ✅แผลมีขนาดเล็กมากๆ (เป็นแผลเดียวกับแผลดูดไขมัน) 2.Body Tite Body Tite เป็นการดูดไขมันที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุออกมา เพื่อช่วยในการสลายไขมัน ให้มีโมเลกุลที่เล็กลง ทำให้สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่าย ซึ่งคลื่นวิทยุนี้มีความปลอดภัยสูง และใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะข้อได้เปรียบของคลื่นวิทยุ มีส่วนทำให้ชั้นผิวหนังแท้มีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวมีความกระชับขึ้น ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Body Tite เลยทีเดียวค่ะ ข้อดีของ Body Tite ✅Body Tite เป็นเทคโนโลยีที่สามารถดูดไขมันไปพร้อมกับการยกกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน ✅เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจาก US FDA และ อย.ไทยบริเวณที่ดูดไขมัน ✅ผิวหนังจะเรียบเนียนขึ้น สามารถกำจัดเซลลูไลท์ ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบ ✅เมื่อดูดไขมันด้วยวิธีนี้แล้ว แผลจะมีขนาดเล็กมากๆ เลือดออกน้อย ช้ำระบมน้อย ✅ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถกลับบ้านได้ทันที 3.Morpheus 8 Morpheus 8 จะปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุลงสู่ชั้นใต้ผิว ผ่านหัวเข็มขนาดเล็ก ซึ่งเทคโนโลยีนี้บอกเลยว่าเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถทำให้ชั้นไขมันใต้ผิวหนังเกิดการหดตัวลง พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Remodeling) ซึ่งการทำงานของเครื่อง จะสามารถปรับระดับความลึกของชั้นผิวที่ต้องการได้ ตั้งแต่ระดับ 1 - 4 มิลลิเมตร ช่วยให้ผิวที่เสื่อมตามกาลเวลา (Aging Skin) แลดูอ่อนเยาว์ เป็นการรักษาที่ปลอดภัยทุกสีผิว ไม่ก่อให้เกิดรอยดำหลังทำ อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ลึกที่สุด ข้อดีของ Morpheus 8 ✅ เทคโนโลยีหนึ่งเดียว ที่ช่วยหดชั้นไขมันใต้ผิว ปรับผิวให้กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ ✅ กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของชั้นคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ✅ สามารถปรับระดับความลึกของพลังงานที่ปล่อยลงสู่ชั้นผิวได้สูงสุด 4 มิลลิเมตร ✅ พลังงานความร้อนที่ปล่อยลงสู่ชั้นใต้ผิว ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวใหม่ ✅ ตอบโจทย์ทุกเฉดสีผิว แม้คนผิวคล้ำ ปลอดภัย ไม่เกิดรอยดำหลังทำ ✅ ยกผิวหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับ ✅ ปรับผิวยับให้เรียบเนียน ✅ ปรับสมดุลของรูปหน้า ทำให้หน้าเรียว ผิวดูอิ่มฟู เปล่งปลั่ง ✅ ลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งใบหน้าและลำตัว ✅ ลดไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง ✅ลดรอยแผลเป็น ผิวขรุขระ ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอกัน ✅ลดจุดด่างดำ กระ ลดการเกิดเม็ดสีผิว ปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น ✅หัวเครื่องมอร์เฟียส 8 จะใช้เพียง 1 ครั้ง ต่อ 1 คน มั่นใจได้ว่าสะอาด ปลอดภัย ✅ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมรกิา (US FDA) ข้อดีของการ ดูดไขมันหน้าท้องพร้อมยกกระชับ ผิวหลังทำทันที ที่คุณหมอลูกหนู เน้นการดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวทันทีหลังทำ ไปพร้อมกันในครั้งเดียว ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องเสียเวลาทำหลายครั้ง เฟิร์ม กระชับ ผิวเรียบเนียบ ผลลัพธ์หลังดูดไขมัน ได้หุ่นสวย ไม่ต้องพักฟื้น แผลเล็ก ซ่อนแผลเนียน ออกงานได้ไว มีเครื่องดูดไขมันและกระชับผิวหลังทำครบ หลากหลายและทันสมัย ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-533-0444 [[ LINE ID ]] @kmbhospital (มี @ ด้วยนะคะ) ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน ✅ ปลอดภัย ✅ใส่ใจทุกขั้นตอน ✅ดูแลอย่างใกล้ชิด ✅ ได้มาตรฐาน โดย คุณหมอลูกหนู และทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง
การดูดไขมันจะมีความเจ็บปวดจากบริเวณแผลที่ทำการดูดไขมัน ซึ่งแต่ละคนจะมีความเจ็บมากหรือน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาช่วยระงับความเจ็บที่จะเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ยาชาและยาสลบ สำหรับในปัจจุบันการใช้ยาชาถือเป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาชาหรือยาสลบ มีผลดีและผลเสียอย่างไร รวมถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ยาทั้งสองประเภทในการดูดไขมัน เรามาดูกันดีกว่าว่าความแตกต่าง และผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง การวางยาสลบ วิธีนี้หลายคนค่อนข้างกลัวและกังวล เนื่องจากคนไข้จะหมดสติหรือบางคนอาจจะอยู่ในอาการสะลึมสะลือ หลังจากการใช้ยาสลบคนไข้จะไม่รู้สึกตัวและไม่รู้สึกเจ็บในจุดที่ทำการดูดไขมัน ถึงแม้จะมีการวางยาสลบแต่ก็ยังต้องทำการใช้ยาชาร่วมด้วยเพื่อให้บริเวณที่ดูดไขมันไม่เจ็บมาก แต่ปริมาณของยาชาจะน้อยกว่าวิธีที่ใช้ยาชาเฉพาะจุด ข้อดีของการใช้วิธีวางยาสลบ คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องรับรู้ว่าแพทย์ทำอะไรบ้างภายในห้องผ่าตัดและการทำงานของแพทย์ก็จะสะดวกและเร็วขึ้นด้วย คนไข้ที่มีความกังวลว่าจะเจ็บเหมาะที่จะใช้การวางยาสลบ ส่วนข้อควรระวังของการใช้วิธีการวางยาสลบ คืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและมีผลข้างเคียงขึ้นได้ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งอาการจะมากหรือน้อยจะแตกต่างกันออกไป อาจมีอาการอ่อนเพลีย หนาวสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง หรือมีอาการเสียความทรงจำชั่วคราว หลังยาสลบหมดฤทธิ์ คนไข้จะมีอาการเจ็บจากแผลที่ผ่าตัด มีอาการปัสสาวะยากช่วง 12 ชั่วโมงแรก ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการวางยาสลบ เกิดขึ้นค่อนข้างน้อยและมักจะไม่รุนแรงนักแต่อย่างไรก็ตามจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของบุคคลนั้นด้วย คนไข้อาจรู้สึกตัวระหว่างทำการผ่าตัด มีภาวะสับสนทางจิตใจชั่วคราว มีอาการแพ้ยาสลบรุนแรงและเฉียบพลันแต่เกิดขึ้นค่อนข้างน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวจะมีอาการความดันต่ำ ตัวบวม หายใจลำบาก เป็นต้น ในบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมากแทบจะไม่มีแล้วในปัจจุบัน นอกจากนั้นอาจมีอาการปอดติดเชื้อ หัวใจขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน เลือดเป็นกรด เป็นต้น สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรใช้วิธีวางยาสลบ เพราะจะเกิดความเสี่ยงคือ ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคอ้วน โรคความดันสูง ผู้ที่หยุดหายใจในขณะที่หลับ คนที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาสลบ เป็นต้น การใช้ยาชา สำหรับการดูดไขมันนั้น ยาชาจะช่วยระงับความเจ็บปวดและมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากคนไข้จะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาและสามารถพูดคุยกับแพทย์ในขณะที่กำลังผ่าตัดได้ ปริมาณของยาชาจะขึ้นกับน้ำหนักตัวของคนไข้ ดังนั้นต้องมีแพทย์เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ข้อดีของการใช้ยาชาคือ สามารถเลือกฉีดได้เฉพาะที่ คนไข้จะรู้สึกตัวอยู่ตลอด และสามารถพูดคุยตอบโต้กับแพทย์ได้ ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนที่จะมาดูดไขมัน ผลข้างเคียงของการใช้ยาชา หน้ามืด เวียนศีรษะ อาเจียนและมีอาการคลื่นไส้ มองเห็นไม่ชัดเจน ปวดในจุดที่ฉีดยาชา มีอาการแพ้ยาชา หน้าบวม ตัวบวม หายใจติดขัด หากรุนแรงอาจมีอาการหัวใจล้มเหลวแต่พบได้น้อยมาก ๆ ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาชา ความดันต่ำ เวียนหัว ง่วงซึม หูอื้อ มีอาการชา พูดไม่ชัด อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยวิธีการใช้ยาสลบหรือการใช้ยาชาก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และด้วยในปัจจุบันการดูดไขมันมีการพัฒนามากขึ้น ความเจ็บปวดหรือบอบช้ำจากการดูดไขมันลดลงมาก ดังนั้นใช้เพียงแค่ยาชาเพื่อระงับความเจ็บก็เพียงพอแล้ว แต่หากคนไข้ยังมีอาการกังวลสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างหมอลูกหนูได้เพราะมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง และพร้อมที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เฉพาะบุคคลอย่างใกล้ชิด ทำไมต้องดูดไขมันที่คุณหมอลูกหนู การดูดไขมันที่คุณหมอลูกหนู ด้วยเทคนิคพิเศษสูตรลับเฉพาะตัว โดยคุณหมอจะทำการวิเคราะห์สรีระ และปัญหาของแต่ละเคสแบบ case by case ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ ตึงกระชับ เรียบเนียน หลังจากที่ดูดไขมันออกไปแล้ว สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งสิ่ง คือ หลังจากดูดไขมันแล้ว บริเวณที่ทำการดูดไขมันไปจะต้องไม่ย้วย และไม่หย่อนยาน คุณหมอจึงเลือกใช้เทคนิคผสมผสานรวมหลายเครื่องมือในการดูดไขมัน ทั้ง Vaser Smooth 2.2, Body Tite, Microaire PAL, J Plasma และ FAT Focus ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ และประโยชน์ที่แตกต่างกัน คุณหมอจึงเลือกใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เครื่องมือที่คุณหมอเลือกใช้มั่นใจได้เลยค่ะว่าเป็นเครื่องมือดูดไขมันรุ่นล่าสุด และทันสมัย มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับระดับสากล อีกเทคนิคของคุณหมอลูกหนูที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันดี คือ แผลเล็ก เจ็บน้อย ชิวเวอร์ และไม่ต้องพักฟื้น อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัวหรือมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-533-0444 [[ LINE ID ]] @kmbhospital (มี @ ด้วยนะคะ) ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน ✅ ปลอดภัย ✅ใส่ใจทุกขั้นตอน ✅ดูแลอย่างใกล้ชิด ✅ ได้มาตรฐาน โดย คุณหมอลูกหนู และทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง
โปรดกรอกอีเมลด้านล่าง 
